เป็นแบบอย่างที่ประเทศไทยสามารถนำไปปรับใช้ได้
อย่างแรก เป็นเพราะการศึกษา เป็นวิธีสอนคนแบบญี่ปุ่น วิธีสอนของพ่อแม่ญี่ปุ่นมีความต่างกับที่ไทยเล็กน้อย พ่อแม่ไทยจะห่วงลูก ดูแลดี ส่วนพ่อแม่ญี่ปุ่นจะปล่อยให้เด็กคิดเอง ทำเองค่อนข้างมาก สื่อและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ก็มีส่วน ในละครไทย พระเอก-นางเอก รักกันแง่งอนกัน น่ารักๆ แต่ญี่ปุ่นละครแทบทุกเรื่องมักจะมีเรื่องอาชีพแฝงอยู่ในเนื้อเรื่อง เช่น ทนายความที่สู้เพื่ออะไรบางอย่าง นายธนาคารที่สู้เพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือนักกีฬาสู้เพื่อให้ได้ชัยชนะ ละครเอง Inspire เราตลอดเวลา อย่างที่สอง คือการสอนของพ่อแม่ญี่ปุ่น มันจะมีคำพูดติดปากของแม่ญี่ปุ่นที่มักจะบอกลูกว่า “กัมบารุ” หมายถึง “พยายามนะ-สู้สู้นะ” แทนที่จะชมว่า ลูกเก่ง การชมเด็กด้วยคำว่าพยายามนะ จะทำให้เด็กมีความรู้สึกอยากพยายามเข้าไปอีก อย่างที่สาม ครูในญี่ปุ่นเองก็มักจะไม่ค่อยชม หรืออวยเด็กมาก ยิ่งกรณีที่เด็กโตแล้ว เช่น เด็กมัธยม เด็กมหาวิทยาลัย หากเด็กคนไหนเก่งและทำได้แล้ว ก็จะนิ่งๆ ไว้ อยากให้เด็กทำได้อีก หากเด็กยังทำไม่ได้ก็จะเข้าไปช่วยฝึกจนเด็กทำได้ด้วยตัวเอง Source : ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ, The Potential Create : Zenniku ============================ เรื่องราวของการสร้างพลังแห่งความสุขในวิถี Zen หลักธรรมในการดำเนินชีวิต อาหาร ความสวยความงาม ดีไซน์ เทคโนโลยี ในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อยกระดับชีวิตให้มีความสุขยิ่งขึ้น Facebook : เนื้อแดดเดียวสูตรญี่ปุ่น Zenniku - https://bit.ly/2XZ0IVO
IG : zenniku.zenway - https://bit.ly/2YFEFnY
Youtube : ZENNIKU
Blockdit : ความสุขวิถี ZEN - https://bit.ly/3kLgX0H
Website : https://zenniku2021.wixsite.com/zenway
Comments